วันอังคารที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

หมวด ณ ด ต ถ ท



              หมวด ณ ด ต ถ ท





   ดูช้างให้ดูหาง ดูนางให้ดูแม่
สํานวนสุภาษิตนี้ มีความหมายเหมือนกับสำนวน “ดูวัวให้ดูหาง ดูนางให้ดูแม่” โดยมีความหมายว่าการเลือกผู้หญิงที่จะเป็นคู่ครองนั้น ให้ดูกริยามารยาทของมารดาของสตรีผู้นั้นประกอบ
ที่มาของสํานวน เปรียบเปรยถึงการดูลักษณะช้างเผือกหห้ดูที่หาง ที่ปลายหางจะมีเส้นขนสี่ขาว

   
    ได้แกง เทน้ำพริก
สํานวนสุภาษิตนี้ ความหมายของสํานวนนี้เหมือนกับ “ได้ใหม่ ลืมเก่า” มักใช้กับผู้ชายที่ได้ภรรยาใหม่ ก็จะไม่สนใจภรรยาคนเก่าแล้ว
ที่มาของสํานวน คําว่า “น้ำพริก”เป็นอาหารที่กินกันเป็นประจำของคนไทยในอดีต และมักเปรียบเปรยเป็นภรรยาอีกด้วย (ที่ต้องอยู่ด้วยกันตลอดเวลา) จึงมีสำนวนคุ้นหูอีกสำนวนหนึ่งคือ “น้ำพริกถ้วยเก่า
  ดอกกระดังงาไทย ไม่ลนไฟไม่หอม
สํานวนสุภาษิตนี้ หมายถึงผู้หญิงที่ผ่านการมีชีวิตคู่มาแล้วและต่อมาเป็นหม้าย ก็จะมีเสน่ห์ดึงดูดชายมากขึ้น
ที่มาของสํานวน เปรียบเปรยกับดอกกระดังงาไทย หากนำมาลนไฟด้วยเทียนขี้ผึ้งแล้ว จะส่งกลิ่นหอมที่มากกว่าเดิม
    
   เด็ดบัวไม่ไว้ใย
สํานวนสุภาษิตนี้ หมายถึงการตัดความสัมพันธ์กันแบบเด็ดขาด จากที่เคยรู้จักหรือสนิทกัน ก็จะสัมพันธ์ชนิดที่ว่าไม่ต้องมาคืนดีกันอีก
ที่มาของสํานวน เปรียบเปรยถึงการหักก้านดอกบัว ก็มักจะมีเยื่อใยของดอกกับก้านอยู่เสมอ ไม่ค่อยขาดจากกัน หากเด็ดดอกบัวแล้วไม่เหลือใยไว้ก็จะสื่อว่าตัดขาดกันเด็ดขาด

   
   เดินตามหลังราชสีห์ ดีกว่าเดินตามก้นสุนัข
สํานวนสุภาษิตนี้ หมายถึงการเป็นลูกน้องของคนที่มีอำนาจ ย่อมดีกว่าการเป็นลูกน้องของคนที่ด้อยกว่า
ที่มาของสํานวน -
     ตกกระไดพลอยโจน

ที่มาของสํานวน เปรียบเปรยถึงการกระทำที่ผิดพลาดคือการตกกระได ก็เลยกระโจนตามไปดีกว่าที่จะฝืนล้มแล้วจะเจ็บหนักกว่า
สํานวนสุภาษิตนี้ หมายถึงมีการกระทำใดที่ต้องไปเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแบบหลึกเลี่ยงไม่ได้ และมักจะสื่อไปในทางที่มีผลกระทบไม่ดีเกิดขึ้น
    
     ตีงูให้กากิน
สํานวนสุภาษิตนี้ หมายถึง การลงทุนลงแรงเพื่อทำอะไรแต่ตนเองกลับไม่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ ต้องปล้อยให้คนอื่นได้ประโยชน์ไป
ที่มาของสํานวน เปรียบเปรยถึงการที่คนเราต้องใช้ความกล้าหาญในการตีงูที่เป็นสัตว์อันตราย แต่ครั้นพอตีงูจนตายแล้วกลับไม่สามารถนำมาใช้ประโยชน์อะไรได้อยู่ดี ต้องปล่อยซากงูไว้แบบนั้น ปล่อยให้อีกามาจิกกินเอาตามสบาย

    ตีวัวกระทบคราด
สํานวนสุภาษิตนี้ หมายถึง การไม่พอใจใครคนหนึ่งแต่ใช้วิธีว่าผ่านไปกระทบอีกคนหนึ่ง โดยเป็นลักษณะพูดจาเหน็บแนมในทางไม่ดี
ที่มาของสํานวน มาจากกคราดซึ่งใช้เป็นเครื่องมือกวาดลานฟางหรือหญ้าในนา ผูกเป็นคันยาวใช้วัว และคราดจะเป็นตักระตุ้นให้วัวทำงานลากคราดไป เมื่อคราดไม่ทำงานก็เลยใช้วิธีตีวัวให้ลากคราด เป็นที่มาของคำว่า ตีวัวกระทบคราด
     ตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ
สํานวนสุภาษิตนี้ หมายถึงการกระทำที่มีการลงทุนลงแรงไปจำนวนมากแต่ผลลัพธ์ที่ได้กลับมามีผลเล็กน้อยมากหรือแทบไม่มีประโยชน์ใดๆ
ที่มาของสํานวน เปรียบเปรยถึงการตำน้ำพริกจำนวนหนึ่งหากนำไปละลายในหม้อแกงก็จะทำให้มีรสชาติอร่อย แต่หากนำน้ำพริกไปละลายในแม่น้ำที่กว้างใหญ่ ไม่สามารถที่จะทำให้แม่น้ำมีรสชาติใดๆเปลี่ยนไปได้ เสียของโดยเปล่าประโยชน์
   ตักน้ำใส่กะโหลก ชะโงกดูเงา
สํานวนสุภาษิตนี้ หมายถึงการจะทำอะไรก็ให้ทบทวนดูความสามารถตนเองก่อน ต่อมาประโยคนี้เริ่่มไปใช้ในกรณีเป็นคำดูถูกคนที่ต้อยต่ำกว่า มักใช้ดูถูกผู้ชายที่มีฐานะต่ำต้อยกว่าที่ไปชอบหญิงที่มีฐานะดีกว่า 
ที่มาของสํานวน  - 


    ตัวเป็นขี้ข้า อย่าให้ผ้าเหม็นสาบ
สํานวนสุภาษิตนี้ หมายถึงแม้คนผู้นั้นเป็นลูกจ้างหรือมีความต่ำต้อยทางสังคม ก็ต้องรักษาความดีในตนเองอย่าให้เสียคน
ที่มาของสํานวน เปรียบเปรยถึงแม้คนเราเป็นขี้ข้าทำงานเกี่ยวกับสิ่งไม่ค่อยสะอาดนัก ก็อย่าทำให้เสื้อผ้าเหม็นเหมือนงานที่ทำ
   ตาบอดได้แว่น

สํานวนสุภาษิตนี้ มีความหมายเหมือนกับ "หัวล้าน ได้หวี" คือการได้สิ่งที่มีค่า แต่กลับเป็นสิ่งที่คนได้ไม่สามารถนำมาใช้ประโยชน์กับตนเองได้ 
   ตีตนไปก่อนไข้สํานวนสุภาษิตนี้ หมายถึงหมายถึง การวิตกกังวลหรือแสดงอาการกลัวไปก่อนที่เหตุการณ์จริงจะเกิด ซึ่งเหตุการณ์นั้นๆอาจจะไม่เกิดขึ้นก็ได้
  

สํานวนสุภาษิตนี้ หมายถึงการจะกำจัดศัตรูต้องทำให้เด็ดขาด อย่าทำครึ่งๆกลางๆ ไม่เช่นนั้นในภายภาคหน้าจะโดนศัตรูกลับมาล้างแค้นได้




สํานวนสุภาษิตนี้ หมายถึงการที่ดูเหมือนว่าจะมีความละเอียดรอบคอบดีแล้ว แต่ความจริงยังมีช่องโหว่ที่เป็นอันตรายที่ยังต้องแก้ไขต่อเพื่อป้องกันความเสี่ยงอีก และบางครั้งใช้เปรียบเปรยถึงการประหยัดในสิ่งที่ที่ไม่ควรประหยัด แต่กลับสุรุ่ยสุร่ายในสิ่งที่ไม่จำเป็น 
  
  ถ่อไม่ถึงน้ำ น้ำไม่ถึงถ่อ
สํานวนสุภาษิตนี้ หมายถึงการทำอะไรครึ่งๆกลางๆ ทำไม่สุดความสามารถ ทำให้ไม่ประสบความสำเร็จตามต้องการ
  ถ่มน้ำลายรดฟ้าสํานวนสุภาษิตนี้ หมายถึงการคิดร้ายหรือดูหมิ่นบุคคลที่มีฐานะทางสังคมสูงกว่าตนหรือเป็นที่เคารพของคนทั่วไป อนาคตอันใกล้จะมีผลร้ายเกิดขึ้นกับคนผู้นั้นเสมอ 
  
  ถ่มน้ำลายแล้วกลับกลืนกินสํานวนสุภาษิตนี้ มีความหมายเหมือนกับคำว่า "กลืนน้ำลายตัวเอง" หมายถึงการที่บอกกล่าวไปแล้วว่าตัดขาดจากกันแล้ว ไม่ไปยุ่งเกี่ยวข้องกันอีก แต่ต่อมากลับคำพูดที่ตนเองเคยพูดไว้ โดยเข้าไปเกี่ยวข้อง   

  ทำคุณบูชาโทษ โปรดสัตว์ได้บาป
สํานวนสุภาษิตนี้ หมายถึงการช่วยเหลือผู้อื่นด้วยความบริสุทธิ์ใจ แต่ผลที่ได้รับตอบแทนกลับมาเป็นโทษกับผู้ที่ช่วยเหลือนั้นๆซะเอง

    ทุบหม้อข้าวตัวเองสํานวนสุภาษิตนี้ หมายถึงการที่บอกความลัพธิ์ทางธุรกิจหรือวิธีหาเงินของตนให้กับผู้อื่น ซึ่งต่อไปภายภาคหน้าอาจส่งผลให้กับผู้ที่บอกวิธีไปนั้นอาจจะไม่สามารถนำวิธีนั้นกลับมาหาประโยชน์ได้อีกต่อไป

    ทำนาบนหลังคนสํานวนสุภาษิตนี้ หมายถึงการหาประโยชน์จากผู้อื่นโดยใช้วิธีเบียดเบียนและขาดความมีมนุษยธรรม
สํานวนสุภาษิตนี้ หมายถึงการที่ชายและหญิงแต่งงานกัน ทำให้ครอบครัวสองครอบครัวมีความแน่นแฟ้นผูกพันกัน
   ทำนาอย่าเสียไร่ เลี้ยงไก่อย่าเสียรังสํานวนสุภาษิตนี้ หมายถึงการกระทำใดให้ทำประโยชน์ให้คุ้มค่า โดยหากขยันเพิ่มอีกนิดก็จะได้ประโยชน์เต็มเม็ดเต็มหน่วย
สํานวนสุภาษิตนี้ หมายถึง ผู้ที่มีพรรคพวกจำนวนมากอยู่ในพื้นที่นั้นๆ คอยรายงานข่าวเหตุการณ์ต่างๆ หรือสังเกตการณ์ กับผู้ที่ต้องการจะติดตามนั้นๆ


    





  

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น